วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

์นิสสัน มาร์ช เปิดตัวมอเตอร์โชว์ 2010 เคาะราคาไม่เกินสี่แสน

(จากประชาชาติธุรกิจ)

บางกอก มอเตอร์โชว์ 2010 ที่จะถึงนี้ ค่ายนิสสันจะเปิดตัว นิสสัน"มาร์ช" รถอีโคคาร์ รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกสำหรับบุกตลาดในไทย วงการต่างคาดหมายว่ายอดจองอีโคคาร์จะคึกคัก เพราะราคารุ่นต่ำสุดอาจไม่ถึง 4 แสน ล่าสุดประชาชาติธุรกิจเปิดโฉมนิสสันมาร์ช หรือไมครา จากงานเจนีวามอเตอร์โชว์

ล่าสุด คาร์ลอส กอส์น (Mr. Carlos Ghosn) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ได้เผยโฉมรถไมครารุ่นใหม่ของบริษัท ซึ่งนับเป็นรุ่นที่สี่ของรถยนต์สำหรับขับขี่ในเมืองอันโดดเด่น ในงานแสดงรถยนต์ระดับนานาชาติที่กรุงเจนีวา ครั้งที่ 80

อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดในเมืองไทยบ้านเราจะใช้ชื่อว่านิสสัน"มาร์ช" และจะเปิดตัววันที่ 12 มีนาคมนี้ ด้วยสนนราคารุ่นต่ำสุดอาจไม่ถึง4แสนบาท มีทอนเล็กน้อย

นอกจากรูปลักษณ์และวิศวกรรมยานยนต์สำหรับรถขนาดเล็กที่เป็นเลิศแล้ว นิสสัน ไมครา (ซึ่งเรียกกันว่า "มาร์ช" (March) ในประเทศญี่ปุ่น) รุ่นที่สี่ ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ทั้งหมดสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ รถนิสสันไมครา ซึ่งเผยโฉมในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์นั้น ได้รับคำยกย่องและประสบความสำเร็จมาโดยตลอดในยุโรป ญี่ปุ่น และตลาดอื่นๆ โดยมีชื่อเสียงว่าเป็นรถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่น่าเชื่อถือ วางใจได้ มีสไตล์ และถูกใจลูกค้าหลากหลายกลุ่ม รถนิสสันไมคราใหม่นี้ ได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองแนวคิดดังกล่าว สำหรับประเทศต่างๆ 160 ประเทศ

"จากการสั่งสมประสบการณ์อันยาวนานกว่า 25 ปี ของการออกแบบรถยนต์ขนาดเล็กหรือคอมแพคท์คาร์เพื่อการขับขี่ในเมือง ภายใต้แพลทฟอร์มใหม่ที่ให้หลากหลายคุณประโยชน์ ประกอบกับความชำนาญด้านการผลิตของนิสสัน ผลลัพธ์ที่ได้คือ ความทันสมัย เรียบง่าย และความมุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในคู่แข่งที่แข็งแกร่งบนเวทีโลก" มร. คาร์ลอส กอส์น กล่าว

@เพียงแค่มองด้วยสายตา
ค่ายนิสสัน โฆษณาว่า รถยนต์นิสสันไมครา ซึ่งได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นมาจากโครงร่างพื้นตัวถังแบบ V-Platform ใหม่ล่าสุดนี้ ถูกพัฒนาภายใต้กระบวนการวิศวกรรมการผลิตแบบใหม่และครบวงจร นอกจากนี้ นิสสันไมครา ยังได้รับการออกแบบและทดสอบในประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้สามารถนำไปผลิตในโรงงานต่างประเทศอย่างน้อยสี่แห่ง และปรับให้ตอบสนองรสนิยมและความต้องการของลูกค้าในประเทศต่างๆ 160 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ นิสสัน จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ในการบุกตลาด จากเดิมที่มุ่งเน้นการผลิตรถในตลาดที่เข้มแข็งแล้วเช่นยุโรปและญี่ปุ่น แต่ครั้งนี้นิสสันจะสร้างฐานการผลิตรถยนต์ไมคราใหม่นี้ในโรงงานต่างประเทศ เช่น ในประเทศไทย อินเดีย เม็กซิโก และจีน เป็นต้น

@"รถรุ่นนี้ จะต้องถูกใจลูกค้าทั่วโลก"
มร. มาโกโตะ ยามาเน่ รองหัวหน้าทีมออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ความเห็น "รูปลักษณ์จะต้องดูมีสไตล์ ในขณะเดียวกัน ต้องมีกลิ่นอายของความพิถีพิถันอยู่ด้วย" คุณลักษณะด้านการออกแบบอันโดดเด่นอย่างหนึ่งของนิสสันไมครา อันได้แก่ ตะแกรงหน้าแบบสองชั้น เป็นไปตามแนวคิดดังกล่าว แต่รูปร่างอันคลาสสิคของรถก็มีความสำคัญมากเช่นกัน นี่คือสาเหตุที่นิสสันไมครา ยังใช้ ขอบหน้าต่างแบบโค้งที่โดดเด่นมีสไตล์ ซึ่งเป็นลักษณะอันเป็นศูนย์กลางแต่ดั้งเดิมของไมคราที่ใช้มาในทั้งยุโรปและญีปุ่น
ด้วยความพยายามที่จะรักษาขนาดที่กะทัดรัดไว้ นิสสันไมคราใหม่นี้ มีขนาดยาวขึ้นและความสูงลดลงเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ฐานล้อซึ่งกว้างขึ้นนั้น ช่วยเพิ่มพื้นที่จาก ′ล้อในแต่ละมุม′ ซึ่งทำให้นิสสันไมครามีพื้นที่ภายในที่กว้างขวางขึ้น นอกจากนี้ ร่องรูปทรงบูมเมอแรงบนหลังคารถก็มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนเช่นกัน ยามาเน่กล่าว ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างความรู้สึกเดียวกันกับรูปลักษณ์ภายนอกด้านในตัวรถ นิสสันจึงได้ใช้รูปทรงของ ′รังไหมที่เชื่อมต่อกัน′ ในการออกแบบแผงหน้าปัดที่ยึดตามแนวคิดของ ′ทวิน บับเบิ้ล′ ที่หมายถึงที่ตั้งเข็มอุปกรณ์รูปกลมและตู้เก็บของรูปร่างคล้ายกันทางด้านผู้โดยสาร

@ เครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมดและระบบส่งกำลังแบบ CVT
ในยุโรป ในรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดานั้น นิสสันมีครื่องยนต์ให้เลือกสองแบบ ซึ่งทั้งสองแบบนั้นปรับมาจากจากเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ HR12 1.2 ลิตรของนิสสัน ทั้งนี้ จากการประยุกต์ใช้เครื่องยนต์แบบ HR16 4 สูบ ซึ่งใช้ในรถยนต์นิสสันโน้ต (Note) และแคชคาย (Qashqai) เครื่องยนต์ใหม่นี้จึงใช้ระบบควบคุมการเปิดปิดของวาล์ว ( valve-timing control -VTC) ด้วยความแรง 59 กิโลวัตต์ (80ps ในขณะที่มีแรงบิด 108 นิวตันเมตร) นอกจากนี้ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ในปริมาณเพียง 115 กรัม/ กิโลเมตร สำหรับรถยนต์รุ่นนี้ ถือว่าอยู่ในระดับโลก

นอกเหนือจากเครื่องยนต์ที่เผาไหม้เชื้อเพลิงได้อย่างหมดจดแล้ว รถคันนี้ยังมีหัวฉีดเชื้อเพลิงแบบ direct injection ขนาด 1.2 ลิตร แบบที่มีการอัดบรรจุอากาศ ซึ่งมีระบบเปิด-ปิด ติดตั้งตามมาตรฐานของยุโรป นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเหล่านี้ เช่น ระบบเปิด-ปิด ที่ช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ได้ร้อยละหก ทำให้รถยนต์มีสมรรถนะที่สูงขึ้น เป็น 72 กิโลวัตต์ (98PS) และแรงบิด142 นิวตันเมตร ส่วนปริมาณก๊าซ คาร์บอนไดอ็อกไซด์ที่ปล่อยออกมานั้น มีเพียง 95 กรัม/ กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์สำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน

ทางเลือกเรื่องเครื่องยนต์ทั้งสองแบบในยุโรปนั้น มีอยู่ในรูปของเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และในระบบเกียร์อัตโนมัติ Continuously Variable Transmission (CVT) แบบใหม่ของนิสสัน โดยระบบ CVT ใหม่ ทำให้มีอัตราการทดเกียร์ที่กว้างขึ้น และระบบ CVT นี้ ทำให้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร สามารถประหยัดน้ำมันได้ในระดับเดียวกับเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร และช่วยให้เร่งเครื่องได้อย่างรวดเร็ว

ไม่เพียงชำนาญในเรื่องสมรรถนะที่ดีขึ้นเท่านั้น วิศวกรนิสสันยังมีความเป็นเลิศในการพัฒนาลักษณะของการขับขี่และการควบคุมยานยนต์ซึ่งได้รวบรวมความแคล่วคล่องว่องไว ความประณีต และความแม่นยำไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ ระบบรองรับซึ่งตั้งอยู่บน V-platform รุ่นใหม่ที่โดดเด่นของนิสสันนั้น ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีความกะทัดรัด ลดการใช้สิ้นเปลืองพื้นที่ด้านหลังเพื่อให้มีพื้นที่บริเวณเก็บของสูงสุด โดยที่ไม่เสียพลวัติในการขับขี่รถยนต์บนท้องถนน
นอกจากนี้ เรายังได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการดูดซับแรงกระแทก ซึ่งหมายความว่า นิสสันไมครา สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างเงียบกริบเหนือพื้นผิวถนนที่ขรุขระ ไม่มีปัญหาเมื่อต้องวิ่งผ่านโคลนหรือน้ำ และแล่นได้สบายๆบนทางด่วน

@ ความสะดวกสบาย การทำหน้าที่ และอุปกรณ์
นอกจากจะสามารถใช้ความเร็วสูง นิสสันไมครา ยังมีวิสัยทัศน์ที่เหนือกว่า และมีรัศมีเลี้ยวซึ่งถือว่าเหนือชั้นสำหรับรถยนต์ระดับนี้เพียง 4.5 เมตร รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆหลายประการ ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์และประหยัดน้ำมัน ในขณะเดียวกับที่ช่วยให้สามารถหาที่จอดรถได้สะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น

ในประเทศต่างๆ อุปกรณ์อาจจะแตกต่างกันไปบ้าง แต่ไมครารุ่นใหม่นี้ มาพร้อมกับนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีที่สำคัญ ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้เจ้าของรถสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น
นิสสันไมครารุ่นใหม่ ประกอบด้วยระบบเซนเซอร์ถอยหลัง และอุปกรณ์ ′ตรวจวัดพื้นที่จอดรถ′ (PSM) แบบใหม่

สำหรับระดับความชำนาญสามระดับ (มือสมัครเล่น ระดับทั่วไป และผู้เชี่ยวชาญ) เพื่อช่วยเหลือเมื่อต้องจอดรถในที่แคบ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่โดดเด่นสำหรับรถยนต์กลุ่มนี้ และน่าจะเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมในยุโรป ซึ่งต้องเจอกับปัญหา ′การหาที่จอดรถ′ ทุกวัน

นอกจากนี้ ยังมี ระบบกุญแจอัจฉริยะ และนิสสัน คอนเน็คท์ (Nissan Connect) ซึ่งได้แก่จอสัมผัสของนิสสัน ซึ่งได้รวมเสียงและระบบนำทางผ่านดาวเทียม หลังคากระจก ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระดับเสียงตามความเร็ว และระบบเปิดปิดโดยใช้ปุ่มกดเข้าด้วยกัน นอกเหนือไปจากคอมพิวเตอร์ที่ช่วยในการขับขี่ ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการประหยัดน้ำมันตามความจริง รวมทั้งพิสัยการขับเคลื่อนและอุณหภูมิภายนอกให้แก่ผู้ขับ สำหรับในส่วนของความปลอดภัยนั้น รถยนต์รุ่นนี้ ยังได้ติดตั้งระบบล็อคประตูอัตโนมัติซึ่งไวต่อความเร็วไว้ด้วย

@ ความปลอดภัย แพลทฟอร์มวี V-platform
การใช้แพลทฟอร์มวี V-platform เป็นปัจจัยหลักประการหนึ่ง ที่ช่วยให้รถมีความปลอดภัยจากการชนมากขึ้น รถยนต์รุ่นนี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้รองรับกำลังจากการชนด้านหน้า อันเนื่องมาจากบริเวณส่วนรับแรงกระแทกที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน ในขณะเดียวกับที่คงรักษาความแข็งแรงของห้องโดยสารด้วยตัวถังรถยนต์ที่แข็งแกร่ง ในยุโรป อุปกรณ์มาตรฐานของนิสสันไมครานั้นจะมาพร้อมด้วยระบบเบรค ABS ถุงลมนิรภัยแบบคู่ด้านหน้า ม่านและถุงลมนิรภัยด้านข้าง รวมทั้งโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Electronic Stability Programme -ESP) และเข็มขัดนิรภัยระบบดึงกลับอัตโนมัติ (pretensioner seatbelts)

มร. ไซมอน โธมัส ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาดของนิสสันยุโรป กล่าวว่า "รถนิสสันไมคราใหม่นี้ จะเป็นมาตรฐานของรถยนต์สำหรับใช้ในเมือง (ซิตี้คาร์) ในยุโรปต่อไป เสน่ห์ของไมครานั้นลงตัวอย่างไม่เหมือนใครจากรูปลักษณ์ขนาดภายนอกที่กะทัดรัด พร้อมทั้งพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง รวมทั้งเครื่องยนต์ที่เล็กและมีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ สถานะความเป็นนิสสันไมครา จะถูกตอกย้ำให้ชัดเจนและเข้มแข็งยิ่งขึ้นในรุ่นที่สี่"นิสสันไมครารุ่นใหม่ จะเริ่มจำหน่ายในประเทศไทยในเดือนมีนาคม ส่วนในยุโรป จะเริ่มจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนของปีนี้

ไม่มีความคิดเห็น: